วันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ทะเบียนสมรส ของพระสมเด็จเจ้าอยู่หัว และ พระบรมราชินีนาถ



[ ทะเบียนสมรส ของพระสมเด็จเจ้าอยู่หัว และ พระบรมราชินีนาถ ] 

เป็นบุญตาของทุกคนที่ได้เห็น เป็นอย่างยิ่ง .. ขอพระองค์ทรงพระเจริญ 

สถิตเป็นมิ่งขวัญของปวงพสกนิกรไทย ตราบจิรัฐิติกาล .. (^人^)

(ขอขอบคุณที่มาของภาพจาก © คุณบีเบอร์/www.SiamZone.คอม)

ภาพที่ใครหลายๆ คนอาจจะยังไม่ได้เห็น...ทรงพระเจริญ



ภาพที่ใครหลายๆ คนอาจจะยังไม่ได้เห็น...ทรงพระเจริญ

รัฐมนตรีติดไฟแดง



วันหนึ่งมีคนสงสัยว่า รถนายกทำไมต้องติดไฟแดง.... 

เหตุนี้เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน บนถนนแห่งหนึ่งในกทม มีรถยี่ห้อโตโยต้าสีดำคันหนึ่ง ได้ขับไปบนถนนเส้นนั้นโดยในรถคันดังกล่าว มีเพียงชายผู้หนึ่งที่กำลังขับรถอยู่เพียงคนเดียวและในระหว่างทางที่ขับไปนั้น ชายดังกล่าวได้จอดรถแวะข้างทางเพื่อซื้อกาแฟ 1 ถุง และได้ออกรถไปจนกระทั่งขับมาถึงสี่แยกไฟแดงแห่งหนึ่ง 

ชายดังกล่าวก็ได้จอดติดไฟแดงอยู่ จนมีรถตำรวจคันหนึ่งซึ่งขับนำรถเบนซ์มาได้บีบแตรไล่รถที่ชายผู้นั้นจอดติดไฟแดงอยู่นั้นให้ถอยไป และรถตำรวจยังได้พูดผ่านไซเรนว่า 

"เป็นรถนำขบวนรัฐมนตรีให้รถของชายดังกล่าวหลบไป" 

แต่รถของชายผู้นั้นก็ไม่หลบให้ จนกระทั่งตำรวจได้ลงจากรถมาที่รถของชายดังกล่าวและเรียกให้ชายผู้นั้นลงจากรถ พอชายผู้นั้นได้ลงมาจากรถ 

ตำรวจได้เห็นชายคนนั้นถึงกลับเป็นลมล้มทั้งยืน สร้างความตกใจให้แก่ตำรวจอีกคนที่นั่งอยู่ในรถ จนต้องวิ่งลงมาดูพร้อมกับรัฐมนตรี พอตำรวจและรัฐมนตรีมาถึง ทั้งคู่ได้เห็นชายดังกล่าว ทั้งตำรวจและรัฐมนตรีได้นั่งลงไปกับพื้นทันที เสมือนกับว่าขาทั้ง 2 ข้างได้อ่อนแรงลงไปทันใด และได้เงยหน้ามองดูชายซึ่งยืนอยู่ข้างหน้าตนด้วยอาการตัวสั่น 

ชายคนนั้นที่ทั้งคู่ได้เห็นเป็นชายที่มีรูปอยู่ บนธนบัตร ซึ่งก็คือ " ในหลวงองค์ปัจจุบัน " 

ในหลวงได้ทรงตรัสถามรัฐมนตรีและตำรวจติดตามว่า "พวกท่านจะรีบไปไหนหรือถึงกลับจะต้องฝ่าไฟแดง ข้าพเจ้ายังรอติดไฟแดงได้เลย" 

รัฐมนตรีไม่ตอบได้แต่นั่ง ตัวสั่นและกราบลงบนพระบาทและในหลวงก็ได้ทรงขึ้นรถ 

ตำรวจที่นำขบวนรัฐมนตรีมานั้นก็ได้ทูลว่า "ให้ข้าพระพุทธเจ้าขับรถนำรถพระที่นั่งของพระองค์ไปมั๊ยพุทธเจ้าข้า" 

ในหลวงทรงตรัสว่า "เราไม่ต้องให้ท่านมานำขบวนรถเราหรอก เราขับไปเองคนเดียวได้ ท่านไปนำรถของท่านรัฐมนตรีเถอะ" 

และในหลวงก็ได้ทรงขับรถออกไปจากสี่แยกนั้น โดยไม่ได้มีรถตำรวจนำไปแต่อย่างใดเลย 

“ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ”