วันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ทะเบียนสมรส ของพระสมเด็จเจ้าอยู่หัว และ พระบรมราชินีนาถ



[ ทะเบียนสมรส ของพระสมเด็จเจ้าอยู่หัว และ พระบรมราชินีนาถ ] 

เป็นบุญตาของทุกคนที่ได้เห็น เป็นอย่างยิ่ง .. ขอพระองค์ทรงพระเจริญ 

สถิตเป็นมิ่งขวัญของปวงพสกนิกรไทย ตราบจิรัฐิติกาล .. (^人^)

(ขอขอบคุณที่มาของภาพจาก © คุณบีเบอร์/www.SiamZone.คอม)

ภาพที่ใครหลายๆ คนอาจจะยังไม่ได้เห็น...ทรงพระเจริญ



ภาพที่ใครหลายๆ คนอาจจะยังไม่ได้เห็น...ทรงพระเจริญ

รัฐมนตรีติดไฟแดง



วันหนึ่งมีคนสงสัยว่า รถนายกทำไมต้องติดไฟแดง.... 

เหตุนี้เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน บนถนนแห่งหนึ่งในกทม มีรถยี่ห้อโตโยต้าสีดำคันหนึ่ง ได้ขับไปบนถนนเส้นนั้นโดยในรถคันดังกล่าว มีเพียงชายผู้หนึ่งที่กำลังขับรถอยู่เพียงคนเดียวและในระหว่างทางที่ขับไปนั้น ชายดังกล่าวได้จอดรถแวะข้างทางเพื่อซื้อกาแฟ 1 ถุง และได้ออกรถไปจนกระทั่งขับมาถึงสี่แยกไฟแดงแห่งหนึ่ง 

ชายดังกล่าวก็ได้จอดติดไฟแดงอยู่ จนมีรถตำรวจคันหนึ่งซึ่งขับนำรถเบนซ์มาได้บีบแตรไล่รถที่ชายผู้นั้นจอดติดไฟแดงอยู่นั้นให้ถอยไป และรถตำรวจยังได้พูดผ่านไซเรนว่า 

"เป็นรถนำขบวนรัฐมนตรีให้รถของชายดังกล่าวหลบไป" 

แต่รถของชายผู้นั้นก็ไม่หลบให้ จนกระทั่งตำรวจได้ลงจากรถมาที่รถของชายดังกล่าวและเรียกให้ชายผู้นั้นลงจากรถ พอชายผู้นั้นได้ลงมาจากรถ 

ตำรวจได้เห็นชายคนนั้นถึงกลับเป็นลมล้มทั้งยืน สร้างความตกใจให้แก่ตำรวจอีกคนที่นั่งอยู่ในรถ จนต้องวิ่งลงมาดูพร้อมกับรัฐมนตรี พอตำรวจและรัฐมนตรีมาถึง ทั้งคู่ได้เห็นชายดังกล่าว ทั้งตำรวจและรัฐมนตรีได้นั่งลงไปกับพื้นทันที เสมือนกับว่าขาทั้ง 2 ข้างได้อ่อนแรงลงไปทันใด และได้เงยหน้ามองดูชายซึ่งยืนอยู่ข้างหน้าตนด้วยอาการตัวสั่น 

ชายคนนั้นที่ทั้งคู่ได้เห็นเป็นชายที่มีรูปอยู่ บนธนบัตร ซึ่งก็คือ " ในหลวงองค์ปัจจุบัน " 

ในหลวงได้ทรงตรัสถามรัฐมนตรีและตำรวจติดตามว่า "พวกท่านจะรีบไปไหนหรือถึงกลับจะต้องฝ่าไฟแดง ข้าพเจ้ายังรอติดไฟแดงได้เลย" 

รัฐมนตรีไม่ตอบได้แต่นั่ง ตัวสั่นและกราบลงบนพระบาทและในหลวงก็ได้ทรงขึ้นรถ 

ตำรวจที่นำขบวนรัฐมนตรีมานั้นก็ได้ทูลว่า "ให้ข้าพระพุทธเจ้าขับรถนำรถพระที่นั่งของพระองค์ไปมั๊ยพุทธเจ้าข้า" 

ในหลวงทรงตรัสว่า "เราไม่ต้องให้ท่านมานำขบวนรถเราหรอก เราขับไปเองคนเดียวได้ ท่านไปนำรถของท่านรัฐมนตรีเถอะ" 

และในหลวงก็ได้ทรงขับรถออกไปจากสี่แยกนั้น โดยไม่ได้มีรถตำรวจนำไปแต่อย่างใดเลย 

“ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ”

วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2555

การปลูกมะพร้าวน้ำหอม


การปลูกมะพร้าวน้ำหอม

มะพร้าวน้ำหอม

มะพร้าวน้ำหอม เป็นพืชที่มีอนาคตในด้านการส่งออก และแปรรูปในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มมากขึ้น เนื่องจากคุณสมบัติพิเศษคือเนื้อมะพร้าวมีรสชาติหวาน กลมกล่อมและมีกลิ่นหอมชื่นใจสามารถช่วยดับกระหายคลายร้อนได้ดี นอกจากนี้มะพร้าว ก็ได้ชื่อว่าเป็นผลไม้ที่ปลอดสารพิษชนิดหนึ่ง เนื่องจากเกษตรกรมีการใช้สารเคมีน้อยมาก
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
- น้ำฝน ฝนควรตกกระจายสม่ำเสมอไม่น้อยกว่า 1,500 มิลลิเมตรต่อปี ไม่ควรมีฝนตกน้อยกว่า 5๐ มิลลิเมตร เกิน 3 เดือน
- สภาพภูมิอากาศ อุณหภูมิเฉลี่ย 27 องศาเซลเซียส จะสูงหรือ ต่ำกว่านี้ไม่เกิน 7-8 องศาเซลเซียส อุณหภูมิไม่ควรเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน
- แสงแดด มะพร้าวควรได้รับแสงแดดอย่างน้อย 5 ชั่วโมงต่อวัน แสงแดดต้องสาดส่องอย่างเสมอตลอดปี มะพร้าวจะเติบโตได้ดี
- ลม ควรมีลมพัดอ่อน ๆ แต่พัดอย่างสม่ำเสมอ
- ดิน ไม่เปรี้ยวหรือเค็มจัด จะเป็นดินอะไรก็ ได้ที่มีความอุดมสมบูรณ์เพียงพอ และความชื้นพอเหมาะ แต่ถ้าเป็นดินน้ำไหลทรายมูลที่เกิดจากน้ำพัดพา มาสะสม เช่น ดินริมแม่น้ำ จะปลูกมะพร้าวได้ดีที่สุด

การปลูกกล้วยไข่


การปลูกกล้วยไข่

การปลูกกล้วยไข่
กล้วยไข่ หรือ กล้วยกระ,กล้วยเจ็กบอง กล้วยไข่เป็นผลไม้ที่นิยมผู้บริโภคกันทั่วไป เนื่องจากมีรสชาติดี ลักษณะการเรียงตัวของผลและสีผลสวยงานน่ารับประทาน
ลักษณะทั่วไป
- ต้น ลำต้นสูง 2. 5 - 3 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 16 - 20 เซนติเมตร กาบลำต้นด้านนอกสีเขียวปนเหลือง มีประสีน้ำตาลอ่อน ด้านในสีชมพูอมแดง
- ใบ ก้านใบสีเขียวอมเหลือง มีร่องกว้าง โคนก้านมีครีบสีชมพู
- ดอก ก้านช่อดอก มีขนอ่อน ปลีรูปไข่ ม้วนงอขึ้น ปลายแหลม ด้านนอกสีแดงอมม่วง ด้านในที่โคนกลีบสีซีด
- ผล เครือหนึ่งมี 6 - 7 หวี หวีหนึ่งมีประมาณ 14 ผล ผลค่อนข้างเล็ก ก้านผลสั้น เปลือกผลบางเมื่อสุก มีสีเหลืองสดใส บางครั้งมีจุดดำเล็ก ๆ ประปราย เนื้อสีครีม อมส้ม รสหวาน

การปลูกกล้วยหอม


การปลูกกล้วยหอม

กล้วยหอม
กล้วยหอม เป็นอีกหนึ่งผลไม้ไทยที่ผลสุกเป็นสีเหลือง เนื้อในสุกเหนียวหนึบ มีกลิ่นหอม รสหวานอมเปรี้ยวหน่อยๆ รสชาติอร่อย และมีผลงานวิจัยแล้วว่า เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ และสารอาหารต่าง ๆ มากมาย ที่ร่างกายควรได้รับ และให้พลังงานมากถึง 100 กิโลแคลอรี่ ต่อหน่วยเลยทีเดียว ในกล้วยหอมมีสารน้ำตาลอยู่ 3 ชนิด คือ ซูโครส (sucrose) ฟรักโทส (fructose) และกลูโคส (glucose) ให้พลังงานแก่ร่างกายพร้อมนำไปใช้ทันที 
พันธุ์และลักษณะประจำพันธุ์ของกล้วยหอม
จะมีอยู่ 2 สายพันธุ์ด้วยกัน คือ
1. กล้วยหอมทองต้นสูง ต้นสูงประมาณ 2-4 เมตร ลำต้นอบใหญ่ กาบสีดำเป็นบางส่วน เครือใหญ่ ผลยาว เมื่อสุกมีกลิ่นหอมมาก สีผิวของเปลือกเป็นสีเหลือง เปลือกไม่ยุ่ย
2. กล้วยหอมทองค่อม ต้นสูงประมาณ 1.5-2 เมตร ลำต้นอวบใหญ่ ต้นเตี้ย ผลสั้น เครือเล็กกว่า กลิ่นหอมน้อยกว่าพันธุ์ต้นสูง

ลักษณะดินและพื้นที่ที่เหมาะสม
ดินที่จะปลูกกล้วยหอมทอง ควรเป็นดินร่วน น้ำไม่ท่วมขัง มีอินทรียฺวัตถุสูง มีแหล่งน้ำเพียงพอตลอดฤดูปลูก

การเพาะเห็ดหอม


การเพาะเห็ดหอม

เห็ดหอม

เห็ดหอม คล้ายๆกับเห็ดที่ขึ้นบนไม้อย่างอื่น เช่น เห็ดนางรม แต่เห็ดหอมมีความสามารถที่จะย่อยเซลลูโลส และลิกนิน ได้ดีกว่า จึงเจริญเติบโตได้ดีในไม้เนื้อแข็ง เป็นเห็ดที่นิยมบริโภคกันมานานนับศตวรรษในหมู่ชาวจีนและญี่ปุ่น ทั้งนี้นอกจากมีรสชาติดีและกลิ่นหอมแล้ว ยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูงและมีคุณสมบัติทางยาอีกด้วย ถือเป็น ยาอายุวัฒนะขนานหนึ่ง เห็ดหอมมีประสิทธิภาพในการต่อต้านมะเร็ง ลดไขมันในเส้นเลือดและต่อต้านเชื้อไวรัสบางชนิด เช่น ไข้หวัด จึงทำให้ผู้บริโภคหันมารับประทานเห็ดหอมกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น

การเพาะเห็ดนางฟ้า


การเพาะเห็ดนางฟ้า

เห็ดนางฟ้าเห็ดนางฟ้ามีรูปร่างลักษณะคล้ายคลึงกับเห็ดนางรม ชื่อ "เห็ดนางฟ้า"เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นในเมืองไทย คนไทยบางคนเรียกว่าเห็ดแขก เนื่องจากมีผู้พบเห็นเห็ดนี้ครั้งแรกที่ประเทศอินเดีย พบขึ้นตามธรรมชาติบนตอไม้เนื้ออ่อนที่กำลังผุ ในแถบเมืองแจมมู (Jammu) บริเวณเชิงเขาหิมาลัย ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Pleurotus sajor-caju (Fr.) Singer เห็ดนางฟ้าถูกนำไปเลี้ยงในอาหารวุ้นเป็นครั้งแรกโดย Jandaik ในปี ค.ศ. 1947 ต่อมา Rangaswami และ Nadu แห่ง Agricultural University, Coimbattore ในอินเดียเป็นผู้นำเชื้อบริสุทธิ์ของเห็ดนางฟ้าเข้ามาฝากไว้ที่ American Type Culture Collection (ATCC) ในอเมริกาเมื่อปี ค.ศ. 1975 และเมื่อปี ค.ศ. 1977 ทางกองวิจัยโรคพืช กรมวิชาการเกษตร เป็นผู้นำเชื้อจาก ATCC เข้ามาประเทศไทยเพื่อทดลองเพาะดู ปรากฏว่าสามารถเจริญเติบโตได้ดี
อีกสายพันธุ์หนึ่งเป็นเห็ดที่มีผู้นำเข้ามาจากประเทศภูฐาน มาเผยแพร่แก่นักเพาะเห็ดไทย ได้มีการเรียกชื่อเห็ดนี้ว่า เห็ดนางฟ้าภูฐาน มีหลายสายพันธุ์ซึ่งชอบอุณหภูมิที่แตกต่างกัน บางพันธุ์ออกได้ดีในฤดูร้อนบ้างพันธุ์ออกได้ดีในฤดูหนาว เป็นที่นิยมมาเพาะเป็นการค้ากันมาก
ลักษณะของดอกเห็ดนางฟ้า มีลักษณะคล้ายกับดอกเห็ดเป๋าฮื้อ และดอกเห็ดนางรม เมื่อเปรียบเทียบกับเห็ดเป๋าฮื้อ ดอกเห็ดนางฟ้าสีจะอ่อนกว่า และมีครีบอยู่ชิดกันมากกว่า เห็นนางฟ้าสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นนานได้หลายวัน เช่นเดียวกับเห็ดเป๋าฮื้อ เนื่องจากเห็ดชนิดนี้ไม่มีการย่อตัวเหมือนกับเห็ดนางรม ด้านบนของดอกจะมีสีนวลๆ ถึงสีน้ำตาลอ่อน ในอินเดียดอกเห็ดมีขนาดตั้งแต่ 5 - 14 เซ็นติเมตร และจะมีน้ำหนักอยู่ระหว่าง 30 - 120 กรัม เห็ดนางฟ้ามีรสอร่อย เวลานำไปปรุงอาหารจะมีกลิ่นชวนรับประทาน เห็ดชนิดนี้สามารถนำไปตากแห้ง เก็บไว้เป็นอาหารได้ เมื่อจะนำเห็ดมาปรุงอาหาร ก็นำไปแช่น้ำเห็ดจะคืนรูปเดิมได้
เห็ดนางฟ้าเติบโตดีที่ pH. 5 - 5.2 (คือเป็นกรดเล็กน้อย) อุณหภูมิที่เหมาะมากต่อเส้นใยคือ 32 องศาเซลเซียส และสร้างดอกเห็ดได้ดีที่ 25 องศาเซลเซียส เส้นใยสีขาวจัด มีความสามารถเชื่อมต่อเส้นใยได้ดี ให้น้ำตาลในแง่ของอาหารคาร์โบไฮเดรตได้ดีกว่าพวก โพลีแซคคาไรค์ หรืออาหารซับซ้อน

การเพาะเห็ดฟาง


การเพาะเห็ดฟาง

เห็ดฟาง
เห็ดฟางเป็นเห็ดยอดนิยมของคนไทย นิยมเพาะกันบนกองฟางข้าวชื้นๆ โคนมีสีขาว ส่วนหมวกสีน้ำตาลอมเทา หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดตลอดทั้งปีเดิมคนไทยเรียกเห็ดฟางว่าเห็ดบัว เพราะมีเกิดขึ้นได้เองในกองเปลือกเมล็ดบัวที่กะเทาะเมล็ดภายในออกแล้ว ต่อมาเมื่อมีการส่งเสริมให้ใช้ฟางเพาะจึงนิยม เรียกว่า เห็ดฟาง
การเพาะเห็ดฟางในตะกร้า
เป็นรูปแบบการเพาะเห็ดฟางอีกแบบหนึ่งที่ทำได้ง่าย ใช้พื้นที่น้อยขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ทุกครัวเรือนสามารถทำได้เพื่อบริโภคในครัวเรือน ดอกเห็ดสามารถทยอยออกได้เรื่อยๆ เป็นการลดรายจ่ายด้านอาหารในครัวเรือน และสามารถทำเป็นกิจกรรมเสริมเพื่อพักผ่อนหย่อนใจได้ด้วย วัสดุที่ใช้เพาะก็สามารถใช้วัสดุเศษเหลือในไร่นาได้เกือบทั้งหมด เช่นเดียวกับการเพาะเห็ดฟางแบบอื่นๆ แต่ที่พิเศษไปกว่านั้นคือ สามารถนำก้อนเชื้อเห็ดถุงที่เก็บดอกหมดแล้วทั้งเห็ดขอนขาว เห็ดนางฟ้า เห็ดนางรม มาเป็นวัสดุเพาะได้อีกด้วย

การเพาะเห็ดขอนขาว


การเพาะเห็ดขอนขาว

เห็ดขอนขาว

เห็ดขอนขาว มีชื่อเรียกอื่น เช่น เห็นขอน เพราะพบขึ้นตามขอนไม้ที่หักโค่น หรือถูกตัดฟันต่อมาพบว่ามีเห็ดขอนขึ้นตามธรรมชาติบนขอนไม้เช่นกัน แต่สีดอกเห็ดค่อนข้างดำ จึงเรียกแยกกันให้ชัดเจนว่า เห็ดขอนขาว และ เห็ดขอนดำ ในภาคกลางพบขึ้นเองกับตอมะม่วงในฤดูฝน จึงเรียก เห็ดมะม่วง แต่เมื่อเข้าตลาดพ่อค้าเรียก เห็ดขอน เหมือนกันหมด แม้จะเป็นเห็ดในสกุลของ เห็ดหอม ตามการจำแนกของนักพฤกษศาสตร์ แต่ลักษณะรูปร่างหน้าตาเหมือนกับเห็ดนางรม เพียงแต่ดอกบางกว่า เหนียวกว่า และมีกลิ่นเห็ด (หรือ มัชรูมอโรน่า) หอมกว่า เป็นที่นิยมรับประทานของคนอีสานและคนเหนือ
วิธีทำก้อนเชื้อเห็ด
วัสดุ อุปกรณ์
1.ขี้เลื่อย 100 กิโลกรัม
2.ปูนขาว 2 กิโลกรัม
3.ดีเกลือ 2 ขีด
4.รำละเอียด 7 กิโลกรัม
5.น้ำ
6.ถุงขนาด 6 ½ x12” หรือ ถุงร้อน 7x11”

การปลูกกล้วยน้ำว้า


การปลูกกล้วยน้ำว้า

กล้วยน้ำว้า
กล้วยน้ำว้า เป็นกล้วยพันธุ์หนึ่ง พัฒนามาจากลูกผสมระหว่างกล้วยป่ากับกล้วยตานี บริโภคกันอย่างแพร่หลาย ปลูกง่าย รสชาติดี อร่อยด้วย กล้วยน้ำว้ามีชื่อพื้นเมืองอื่นเช่น กล้วยน้ำว้าเหลือง กล้วยใต้ หรือ กล้วยอ่อง กล้วยน้ำว้าเมื่อเทียบกับกล้วยหอมและกล้วยไข่ กล้วยน้ำว้าจะให้พลังงานมากที่สุด กล้วยน้ำว้าห่ามและสุกมีธาตุเหล็กในปริมาณสูง ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง ป้องกันโรคโลหิตจาง มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินซีช่วยบำรุงกระดูก ฟัน และเหงือกให้แข็งแรง ช่วยให้ผิวพรรณดี มีเบต้าแคโรทีน ไนอาซีนและใยอาหาร ช่วยให้ระบบขับถ่ายคล่องขึ้น กินกล้วยน้ำว้าสุก จะช่วยระบายท้องและสามารถรักษาโรคเลือดออกตามไรฟันในเด็กเล็กได้ ช่วยลดอาการเจ็บคอ เจ็บหน้าอกที่มีอาการไอแห้งร่วมด้วย
ลักษณะทั่วไปของกล้วยน้ำหว้า
- ต้น ลำต้นสูงไม่เกิน 3.5 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 15 เซนติเมตร กาบลำต้นด้านนอกมีสีเขียวอ่อน มีประดำบ้างเล็กน้อย
- ใบ ก้านใบมีร่องค่อนข้างแคบ เส้นกลางใบสีเขียว
- ดอก ก้านช่อดอกไม่มีขน ปลีรูปไข่ค่อนข้างป่อม ปลายป้าน ด้านนอกสีแดงอมม่วงมีนวลหนา ด้านในมีสีแดงเข้ม
- ผล เครือหนึ่งมีประมาณ 7 - 10 หวี หวีหนึ่ง มี 10 - 16 ผล ก้านผลยาว เปลือกหนา สุกมีสีเหลืองเนื้อสีขาว รสหวาน ไส้กลางมีสีเหลือง ชมพูหรือขาว ทำให้แบ่งออกเป็นกล้วยน้ำว้าเหลือง กล้วยน้ำว้าแดง และกล้วยน้ำว้าขาว

การเพาะเห็ดโคนญี่ปุ่น


การเพาะเห็ดโคนญี่ปุ่น

เห็ดโคนญี่ปุ่น
เห็ดโคนญี่ปุ่น หรือ เห็ดยานางิ มีชื่อสากลว่า Agrocybe cylindracea Maire ดอกมีสีน้ำตาลถึงน้ำตาลเข้ม ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิที่เห็ดออกดอก ถ้าอุณหภูมิยิ่งเย็นสีจะยิ่งเข้ม ก้านดอกสีขาว เนื้อแน่นและมีเนื้อเยื่อยาว ทำให้ไม่เปราะหรือหักง่าย รสชาติคล้ายกับเห็ดโคนไทย เป็นเห็ดอีกชนิดหนึ่งที่มีตลาดผู้บริโภคอยู่ในเกณฑ์ดี กลุ่มผู้บริโภคส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับกลางค่อนไปทางสูง
วิธีการเพาะเห็ดโคนญี่ปุ่น
วัสดุเพาะ : วัสดุเพาะที่นิยมมากที่สุด คือขี้เลื่อยจากไม้เนื้ออ่อน เช่น ไม้ยางพารา ไม้งิ้ว ไม้นุ่น ไม้ก้ามปู ไม้กระถินณรงค์ กากเป็นไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้มะขาม ไม้ทุเรียน ไม้ขนุน ต้องทำการหมักสลายยางไม้เสียก่อน วัสดุเพาะที่นิยมกรณีที่ไม่มีขี้เลื่อย คือ ฟางข้าว ต้นข้าวโพด ต้นข้าวฟ่าง วัสดุเพาะดังกล่าวนี้หากนำไปเพาะเห็ด จะทำให้ผลผลิตค่อนข้างสูงคุณภาพดี ไม่มีกลิ่นไม้ รสชาติดีกว่า แต่ต้องทำการหมักจนกว่าวัสดุเพะจะนิ่มและหอม จึงจะสามารถนำไปเพาะเห็ดโคนญี่ปุ่นได้

การเพาะเห็ดหลินจือ


การเพาะเห็ดหลินจือ

เห็ดหลินจือ
เห็ดหลินจือ เป็นสมุนไพรที่ชาวจีน ญี่ปุ่น เกาหลี และไต้หวัน ใช้รับประทานบำรุงสุขภาพ มา ช้านาน เห็ดชนิดนี้ ราคาค่อนข้างแพงและมีรสชาติขม การเพาะทำได้ไม่ยากโดยใช้ขี้เลื่อยผสม วัสดุต่าง ๆ ดังวิธีการและขั้นตอนดังต่อไปนี้
การเพาะเห็ดหลินจือ
การเพาะเลี้ยงเชื้อเห็ดบริสุทธิ์
การเลี้ยงเชื้อเห็ดหลินจือ เลี้ยงได้บนอาหารชนิดเดียวกับเห็ดนางฟ้า นางรม อาหารที่ใช้เลี้ยงจะต้องเป็นอาหารที่เหมาะสมและปราศจากเชื้อจุลินทรีย์ทุกชนิด ในการเตรียมอาหารเลี้ยงเชื้อบริสุทธิ์จะต้องมีขั้นตอนที่สำคัญ 2 ประการ คือสูตรอาหารที่เหมาะสมและวิธีการเตรียมที่ถูกต้อง
สูตรอาหาร P.D.A
สูตร 1.
มันฝรั่ง 200 กรัม
รำละเอียด 50 กรัม
น้ำตาลคลูโคส 20 กรัม
วุ้น 20 กรัม
วิตามิน 10 มิลลิกรัม
รแตสเซียมไฮโดรเจนฟอสแฟต (KH PO ) 1 กรัม
แมกนีเซียมซัลเฟต (ดีเกลือ) MgS04 0.5 กรัม
น้ำสะอาด 1 ลิตร
สูตร 2.
มันฝรั่ง 200 กรัม
น้ำตาลกลูโคส 20 กรัม
วุ้น 20 กรัม
น้ำสะอาด 1 ลิตร

การเพาะเห็ดเข็มทอง


การเพาะเห็ดเข็มทอง

เห็ดเข็มทอง

ลักษณะตามธรรมชาติมี สีเหลือง – ส้ม น้ำตาล – แดง หมวกเล็กพบขึ้นทั่วไปในเขตหนาว เช่น จีน ญี่ปุ่น อเมริกา และออสเตรเลีย ชอบขึ้นกับไม้ที่ตายแล้วและออกดอกในช่วงฤดูหนาว ชาวบ้านจึงนิยมเรียกเห็ดชนิดนี้ว่า เห็ดเหมันต์ (Winter mushroom) ปกติจะมีดอกขนาดเล็ก และสั้น แต่ที่วางขายในตลาดทั่วไปจะมีดอกเล็ก ลำต้นยาวเป็นกระจุกผิดไปจากที่พบเห็นในธรรมชาติ ทั้งนี้เพื่อให้ได้ปริมาณและน้ำหนักที่ดี และสะดวกในการบรรจุจำหน่าย เห็ดชนิดนี้สามารถนำมาปรุงอาหารได้หลากหลายประเภท อาทิ สุกี้ ในธรรมชาติมีสีเหลือง – ส้ม น้ำตาล – แดง หมวกเล็ก
คุณค่าทางโภชนาการ
โปรตีน 25%, ไขมัน 1%, แป้ง 53%, เยื่อใย 12%, เถ้า 8%, วิตามินบี 1, วิตามินบี, วิตามินซี และ arginine
สรรพคุณทางยา
ถ้ารับประทานเป็นประจำจะช่วยรักษาโรคตับ กระเพาะและลำไส้อักเสบเรื้อรัง เห็ดเข็มทองมีสาร flammulin สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเยื่อบุช่องท้อง(Ehrlich) และเซลล์มะเร็ง Sarcoma 180 ในหนูขาว ได้ผลถึง 81.1-100% และมีคุณสมบัติในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของสิ่งมีชีวิต
วิธีการเพาะเห็ดเข็มทอง
เห็ดเข็มทอง เป็นพวกย่อยสลายเนื้อไม้ ชอบขึ้นบนตอไม้ วัสดุที่ใช้เพาะจึงเป็นขี้เลื่อย หรือซังข้าวโพดบดละเอียดผสมอาหารเสริม ได้แก่ รำข้าวละเอียด pH ให้อยู่ระหว่าง 6.0-7.5 ความชื้น 60-65% บรรจุในขวดพลาสติกทนร้อน อบฆ่าเชื้อที่ 121°C เป็นเวลา 2 ชั่วโมง ทิ้งไว้ให้เย็น ใส่เชื้อเห็ดเลี้ยงไว้ในห้องอุณหภูมิ 18-22°C ประมาณ 1 เดือน พอเชื้อเจริญเต็มขวด นำไปเข้าห้องเปิดดอกที่อุณหภูมิ 10-15 °C ความชื้น 85-95% เมื่อดอกเห็ดเจริญสูงกว่าปากขวด 2-3 ซม. ให้ใช้กระดาษสะอาดหรือแผ่นพลาสติกหุ้มรอบปากขวด เพื่อช่วยบังคับให้ดอกเห็ดเจริญเติบโตในแนวสูง และเป็นกลุ่มก้อนง่ายต่อการเก็บดอกและคัดบรรจุ
ศัตรูเห็ดเกิดจากแมลง-ศัตรูที่คอนทำลายเห็ดและพบเป็นประจำก็คงจะเป็นแมลงตัวเล็ก ๆ มีปีก จัดอยู่ในวงศ์ดิบเทอรา (Diptera) ก็คือแมลงวันเป็นส่วนมาก ทั้งนี้เพราะว่าหนอนแมลงวันพวกนี้มีขนาดจิ๋ว เป็นศัตรูที่คอยทำลายเงียบ ๆ แต่รุนแรง หนอนผีเสื้อ ดวงปีกแข็งเพลี้ยไฟ แมลงสาบ หนู
การป้องกันและกำจัดพ่นด้วยคาร์บาริล (เซฟวิน 80 WP) หรือใช้ไดอาซินอน (บาซูดริน 40 WP) อัตรา 40-60 กรัม (4-6 ช้อนแกง) ต่อน้ำ 20 ลิตร เพื่อกำจัดแมลง พ่นสารฆ่าไรไดคาร์โซล 25 WP หรืออมิทราช 20 EC อัตรา 2-3 ช้อนแกงต่อน้ำ 20 ลิตร
ราคาเห็ดเข็มทอง ตามท้องตลาด โดยประมาณ กิโลกรัมละ 200 - 300 บาท

การปลูกฝรั่ง



การปลูกฝรั่ง
หลังจากที่เลือกพื้นที่ปลูกได้แล้ว ถ้าต้องการจะปลูกเป็นสวนก็ควรจะจัดระยะปลูกระหว่างแถวและระหว่างต้นประมาณ 3 x 3 เมตรในเนื้อที่ 1 ไร่ จะปลูกได้ประมาณ 160 ต้น 

การเตรียมดิน
การปลูกฝรั่งในพื้นที่ลุ่มน้ำท่วมถึงควรทำการยกร่องปลูก โดยยกร่องให้มีขนาดความกว้างของหลังร่องประมาณ 6 เมตร มีคูน้ำกว้างประมาณ 1.5 เมตร ความยาวของสันร่องแล้วแต่พื้นที่ ความสูงไม่จำกัด แต่ถ้าเป็นที่ดอนไม่จำเป็นต้องยกร่อง จากนั้นก็ปรับปรุงดินโดยการตากดินเพื่อฆ่าเชื้อโรค และเมล็ดวัชพืช ใส่ปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมักในปริมาณเท่า ๆ กัน อัตราปุ๋ย 1 ส่วนต่อดิน 2 ส่วน เพื่อให้ดินร่วนซุย

ตัวอย่างที่ดีมีค่ากว่าคำสอน

ตัวอย่างที่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างของคนเป็นลูก



ตัวอย่างที่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างของคนเป็นพ่อแม่




พระมหากษัตริย์ ผู้ทรงเป็นแบบอย่างแก่ชนทั้งปวง

      เหตุการณ์ เมื่อปี 2513 วันนั้นท่านทรงเสด็จไปหมู่บ้านท้ายดอยจอมหด อ.พร้าว เชียงใหม่ ผู้ใหญ่บ้านลีซอกราบทูลชวนให้ไปแอ่วบ้านเฮา ท่านก็ทรงเสด็จ ตามเขาเข้าไปในบ้าน ซึ่งทำด้วยไม้ไผ่และมุงหญ้าแห้ง เขาเอาที่นอนมาปูสำหรับให้พระองค์ประทับ แล้วก็รินเหล้าทำเองใส่ถ้วยที่คงไม่ค่อยจะได้ล้าง จนมีคราบดำๆ จับอยู่ ทางผู้ติดตามรู้สึกเป็นห่วงพระองค์ท่าน เพราะปกติไม่ทรงใช้ถ้วยที่มีคราบ จึงกระซิบทูลว่า ควรจะทรงแค่ทำท่าเสวย แล้วส่งถ้วยมาพระราชทาน ผู้ติดตามจะจัดการเอง แต่ท่านก็ทรงดวดเอง กร้อบเดียวเกลี้ยง หลังจากนั้นจึงทรงรับสั่งว่า “ไม่เป็นไร แอลกอฮอล์เข้มข้นเชื้อโรคตายหมด" 
สถาบันพระมหากษัตริย์ ช่วยให้ประเทศไทยอยู่เป็นเอกราชมานานนับร้อย ๆ ปี สุดยอดจริงๆ